ส่วนตัวเป็นคนเฉื่อย ๆ มีไฟเป็นพัก ๆ คือแบบว่าเกิดอาการไฟติดอยากทำอะไรขึ้นมาเนี่ย จะต้องรีบทำในทันที เพราะเคยเจอเหตุการณ์ไฟติดแล้วแต่ทำอย่างอื่น หรือมีอย่างอื่นมาแทรก แป๊บเดียว ไฟมอด ไม่อยากทำแล้ว สำหรับเรื่องไฟมอดนอกจากเหตุผลที่กล่าวมาในตอนแรก หลัง ๆ ยังเจอเกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานที่ไฟไม่ได้ลุกเหมือนกับเรา ทำให้ไฟค่อย ๆ มอดลงไปก็มี
ตลอดปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ทำให้รู้จักตัวเองดีขึ้นมาก และ สามารถสลัดความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับการทำงานที่ตัวเองสนใจ และยิ่งพอมองกลับไปแล้วเกิดความคิดว่าที่ผ่านมาทำไปได้ยังไงฟร่ะ ถ้าเป็นตอนนี้จะไม่ทำหรือคิดแบบอื่นแทนแน่ ๆ
ที่ผ่านมา...
- ความสุขตัวเองต้องมาก่อน ได้เงินไม่ได้เงินอีกเรื่อง ถึงแม้จะพยายามทำสิ่งที่ตัวเองชอบให้สามารถหารายได้ได้ด้วย แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นการฝืนตัวเองอย่างมากที่จะทำให้เกิดขึ้นสิ่งนั้น (และตอนนี้ก็ได้ลดระดับจากสิ่งที่คิดว่าน่าจะมีความสุขที่สุด ลดให้เหลือเป็นแค่งานอดิเรก หรือ การทดลองสนุก ๆ เท่านั้น - ที่พูดมาคือ การเขียน PHP นั้นเอง)
- การทำงานเป็น Project จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลายส่วน หากเราชอบแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่องค์ประกอบที่เหลือไม่สามารถทำให้มันดีได้ ผลที่ได้คือ Project กาก ๆ ที่ไม่มีคุณภาพ และยากที่จะทำเงินได้
- การทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งที่ไฝ่ฝันมาตลอด แต่มันยากมากที่จะหาทีม หรือเข้าไปอยู่ในทีมที่จะทำให้เกิด Project นั้น ๆ ได้ ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างเช่น บุคลิกของตัวเอง ช่วงจังหวะเวลา และคุณสมบัติของคนที่จะเข้าร่วม Project ไม่ผ่าน (อย่างเช่นอายุเกิน เงินเดือน การเมืองในที่ทำงาน) - สุดท้ายคือ จริง ๆ แล้วคนไทยไม่ชอบทำงานเป็นทีม และคนส่วนใหญ่ชอบดราม่าและทำให้เกิดดราม่าประจำ
ต่อไป...
- งานระดับ Enterprise เท่านั้นที่เราต้องการ ลงทุนกับเครื่องมือที่ต้องใช้ในองค์กร (ปัจจุบันที่สนใจอยู่คือ SAP และ Excel)
- งานที่ Project (เกือบ)พร้อมทุกองค์ประกอบ หากพิจารณาแล้วไม่พร้อมจะพยายามมองข้ามไป ห้ามเสียดายเด็ดขาด
- รับทำงานที่ผู้ว่าจ้างเอาไปทำให้เกิดรายได้จริง ๆ เท่านั้น งดรับงานสร้างฝัน และงานที่ผู้ว่าจ้างเองยังไม่เห็นคุณค่า(เงิน)ของงานที่อยากจะทำ
- ทีมของเราคือ ตัวเรากับ(ทีมของ)ลูกค้า
- อะไรที่่ชอบทำแต่ไม่ได้เงิน ลดระดับเป็นงานอดิเรกทั้งหมด
ถ้าตอนนี้มาเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน ๆ ที่ได้เรื่องได้ราวจะพบว่าตัวเองมีพัฒนาการช้ามาก คนอื่นเขารู้มาตั้งนานแล้วว่าต้องทำงานยังไง แต่ตัวเองเพิ่งมารู้เมื่อไม่นาน แต่ถ้ามองกลับไปช่วงเวลาก่อนหน้านั้นก็มันไม่เข้าใจจริง ๆ และที่แย่ที่สุดที่สุดคือ "ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร" หรือ "ควรทำอะไรดี"
แต่แล้ว...สิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะช่วยให้เราได้เปิดหูเปิดตา เปิดความคิดให้ก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่ สิ่งที่ว่ามันน่าจะไร้สาระ สิ่งนั้นคือ Facebook.com ใครจะคิดว่า Facebook จะทำให้อะไรมันเปลี่ยนไปขนาดนี้ มันอยู่ที่เราจะเอาเครื่องมือตัวนี้ไปทำอะไร หลายคนเอาไว้เล่นเกมส์ เสือกเรื่องชาวบ้าน รับข่าวสาร โชว์เรื่องตัวเอง
สำหรับผมเริ่มใช้ Facebook ประมาณเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ (2009) ตอนแรกเล่นเพราะเพื่อนเล่นกันและจะเอามาเล่นเกมด้วย แต่กลับกลายเป็นว่ามันช่วยให้เห็นว่าชาวบ้านที่มีสติและปัญญา มีความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดรอบ ๆ ตัวอย่างไร และตัวเราอยากเชื่อและคิดแบบไหน พอได้ข้อมูลและวิธีคิดและเหตุผลหลาย ๆ แบบ เมื่อนำมาประมวลผลจนตกตะกอนแล้วพบว่าสิ่งที่ตัวเองเคยคิดเคยทำมันโคตรไม่เข้าท่าเลย และต่อไปนี้จะไม่ทำหรือคิดแบบนั้นอีก
ทุกวันนี้ถ้าลองไปดู Timeline ของตัวเองที่ผ่านมาหลาย ๆ ปี จะพบว่าตัวเองปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ซึ่งคิดว่าถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้เราเปลี่ยนแปลงและมุมมองความคิดเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ก็น่าจะแสดงว่าเรามีการพัฒนาตัวเองขึ้นไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
สุดท้าย Facebook ทำให้เข้าใจสังคมมนุษย์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวมากขึ้น
- คนไทยส่วนใหญ่ชอบใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลเสมอ และความจริงนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้เลย ยากมาก!!
- คนไทยชอบดราม่ามาก และชอบสร้างดราม่าเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ค่อยรู้ตัว
- อยากรู้ว่า stereotype ของคนส่วนใหญ่ในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร ให้ดูจากวิธีเลือกผู้แทนฯ ผู้ว่าฯ มันบอกได้หมดเลย
- การคุยหรือถกเถียงกันด้วยเหตุผล เป็นเรื่องที่ผิดปกติและเกิดขึ้นได้ยาก
- "ความเชื่อ" ยิ่งใหญ่กว่า "ความจริง" เสมอ
- คนชอบเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่ออยู่แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับเหตุผลหรือข้อมูลที่ได้รับ
- ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ คือ คนที่เกิดมากก่อน มีอายุมากกว่า ดูหน้าตาแก่กว่า พูดให้ง่ายกว่านั้นคือ ก็แค่เด็กตัวโต หน้าแก่ นั้นแหละ
- คนที่มีวุฒิภาวะที่ดี ไม่เกี่ยวข้องกับอายุเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับความคิดและสภาพแวดล้อมที่เกิดมา
การรับรู้ถึงข้อเท็จจริง และยอมรับมัน ทำให้ผมอยู่ในสังคมได้ง่ายขึ้น มีความสุขขึ้น
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น