23 มิถุนายน 2555

[104] เที่ยวเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (Ho Chi Minh City - Viet Nam)

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยการจองตั๋วเครื่องบิน AirAsia โปร 0 บาท ทำให้ได้เปิดหูเปิดตาในต่างแดนราคาประหยัด ตั้งใจว่าจะไปเดินเที่ยวชิว ๆ ในโฮจิมินห์สัก 3 วัน แต่สุดท้ายกลายเป็นเดินไม่ชิว ๆ (เดินทั้งวัน) ชมเมืองแบบเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว


เงินที่ใช้ในเวียดนามเป็นเงินสกุล Viet Nam Dong (VND) ครับ ตอนที่ไปอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 20,920 VND ราคาสินค้าที่พูดใน post นี้จะเป็น VND ครับ (เลขศูนย์เยอะมาก)
ถ้าคิดเป็นเงินบาทก็ 1 ฿ = 657 VND ถ้าคิดให้ง่ายก็ 1,000 VND = 1.52 ฿
ซึ่งตอนไปเที่ยวจริง อัตราแลกเปลี่ยนมาไม่ได้ตรงเป๊ะ ๆ โดยชาร์ตไปอีก เลยตีว่า 1,000 VND = 1.6 ฿ แทน

ข้อควรจำ 

  • อย่าเอาเงินไทยไปแลกที่เวียดนามโดยตรง จะได้น้อยกว่าเอา USD ไปแลกครับ
  • แลกที่สนามบินจะโดน Service charge อีก 1-2%
  • ในเมือง สามารถแลกตามห้างสรรพสินค้าก็ได้นะ เปิดให้แลกทุกวัน ลองไปแลกที่ห้าง Parkson ที่ Le Thanh Ton St. ก็ให้อัตราปกติไม่มี charge เพิ่ม



เมืองที่มีต้นไม้ใหญ่
ตอนที่ไปสิงคโปร์ สิ่งที่ประทับใจเป็นอย่างมากก็คือ เขาปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้ในเมือง มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ที่โฮจิมินห์ก็เป็นแบบเดียวกันคือตลอดเส้นทางส่วนใหญ่ในเมือง จะมีต้นไม่เยอะมาก สูงมาก ร่มรื่นมาก ถ้าไม่มีจยย.มาวิ่งเยอะ ๆ เนี่ย จะเป็นเมืองที่สุดยอดน่าอยู่มาก ๆ ครับ

สวนสาธารณะเล็ก ๆ ในตัวเมืองครับ ต้นไม้ใหญ่ทุกต้น ตัดแต่งเป็นอย่างดี
นั่งถ่ายรูปกับต้นไม้ข้างทาง ใหญ่โฮก!!

ถ้าสังเกตดี ๆ ต้นไม้เกือบทุกต้นจะมีเบอร์หรือรหัสกำกับไว้ด้วยครับ จากการที่มีต้นไม่ใหญ่ตลอดทาง ทำให้สามารถเดินเล่นในเมืองได้สบาย ๆ ไม่ร้อนมากนัก (ถ้าเดินแบบนี้ในกรุงเทพฯ ไม่เกินชั่วโมงคงเป็นลม)


รถในเมือง
ส่วนใหญ่จะเป็นจักรยานยนต์ สำหรับ จยย. ที่นี่เขาราคาแพงกว่าที่เมืองไทยเท่าตัว คือซื้อมาได้ใช้คุ้มแน่นอน ใครมีรถยนต์ขับถือว่ามีฐานะเพราะที่จอดในเมืองหายยากและราคาแพงมากกกก

ดังนั้นจยย.จึงเป็นพาหนะหลักในเมืองโฮจิมินห์ครับ เวลาข้ามถนนนี่ตื่นเต้นมาก ๆ แต่พอชิน ๆ แล้วก็ไม่เห็นจะยากสักเท่าไหร่ (^ω^)V

สำหรับรถเมล์ถ้าเทียบกับ กทม. แล้วจำนวนน้อยกว่ามาก ๆ และป้ายรถเมล์ก็มีน้อยสุด ๆ เรียกกว่าถ้าจะใช้รถเมล์เพื่อเที่ยวในโฮจิมินห์ทำได้ลำบากกว่า TAXI หรือเช่าจยย.ขับเอง ราคาตอนที่ไปอยู่ที่ 4,000 ต่อระยะทาง 18 กม. (แต่ตอนมาจากสนามบินขึ้นสาย 152 เจอไปคนละ 10,000 ถึงจะถูกแล้วแต่ก็เซ็งอยู่ดี)
ปัจจุบันไม่สามารถหาชมสาวเวียดนามกับชุดประจำชาติ
ปั่นจักรยานในโฮจิมินห์ได้อีกแล้วครับ


อาหารการกิน
อยู่ที่เวียดนามก็ต้องก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ราคาอาหารไม่ได้ถูกกว่าเมืองไทย แถมแพงกว่าซะอีก แต่คุณภาพนี่ถือว่าของเขา สด สะอาด และรสชาติดี ลองกินเฟ๋อมีตั้งแต่ราคา 30,000 - 50,000 ผักมีให้กินกันเต็มที่ (พริกที่นี่เผ็ดกว่าที่บ้านเรามาก)

ซาลาเป๋าเวียดนาม ถ้าดูจากที่อยู่ในตู้นึ่ง นึกว่าแป้งจะด้าน ๆ แข็ง ๆ แต่พอได้กินจริง มันสุดยอดมาก แป้งนุ่มแน่น ไส้หมูเป็นหมู สรุปว่าใบละ 15,000 ไม่แพงเลยกับคุณภาพที่ได้รับ

อาหารข้างทางสามารถกินได้ ท้องไม่เสีย ลองกินหลายอย่าง ทั้งกาแฟเย็น น้ำส้มคั้น ขนมเบื้องที่มีหมูสามชั้นและกุ้ง(สุดยอดมาก) โดยเฉลี่ยอาหารในเมืองสดสะอาด กินมา 3 วัน ท้องไม่เสียเลย ที่เวียดนามโต๊ะที่กินกันข้างทางจะเป็นโต๊ะเตี้ย ๆ ครับ สูงประมาณ 2-3 ฟุต เก้าอีกก็เก้าอี้ตัวเล็ก ๆ ก็แปลกดี กินไปกินมาก็ชิน


วัฒนธรรมกาแฟเวียดนาม
ไปเวียดนามไม่กินกาแฟนี่ถือว่าไม่ได้มาเวียดนาม เพราะคนที่นี่ปลูกกาแฟส่งออก กาแฟเวียดนามจะเน้นเข้มข้นมาก ๆ จะมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว ต่างกับที่กินในร้านหรู ๆ Starbuck หรือกาแฟฝั่งตะวันตกที่จะออกหอมและรสชาตินุ่มนวลกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบกาแฟเวียดนามน่าจะเหมือนโอเลี้ยงรถเข็นในเมืองไทยที่เคยกินมา 20 ปีที่แล้ว (10 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยซื้อกาแฟ โอเลี้ยงข้างทางเลย กินแล้วอยากจะพ้นทิ้งมาก รสชาติอุบาทสุด ๆ)

โอเลี้ยงเวียดนาม ราคา 10,000 เข้มมาก
คนที่นี่จะกินกาแฟเย็นกันแบบชิว ๆ คือ น้ำแข็งเต็มแก้วจะมีกาแฟอยู่แค่ครึ่ง ต้องค่อย ๆ รอน้ำแข็งละลายแล้วจิบกินไปเรื่อย ๆ ถ้าลองดูปรืดเดียวมีหวังแย่แน่ ๆ เพราะกาแฟรสชาติเข้มข้นมาก ตอนไปตลาดเบนถัน กินแก้วละ 10,000 ถึงกับกินไม่หมด เพราะไม่มีเวลานั่งชิว ๆ เลยดิ่มไปได้ครึ่งเดียว ปวดหัวตุ๊บ ๆ เลย แบบคาเฟอีนแรงมาก กินแล้วคึกคัก


กาแฟเวียดนามที่ซื้อมาคราวนี้ ราคาถูกถ้าเทียบกับกาแฟที่ขายในบ้านเรา
ส่วนกาแฟร้อน ที่นี่จะมีถ้วยกรองกาแฟ ให้ชงกาแฟร้อนกัน สามารถหาซื้อได้ทั่วไป มีตั้งราคา 10,000 - 50,000 ขึ้นอยู่กับคุณภาพ สถานที่ซื้อด้วย (โดนโก่งราคา) แนะนำว่าให้ไปซื้อที่ซุปเปอร์มาเก็ตดีกว่า ถ้าเป็นแบบสเต็นเลส ราคาจะประมาณ 15,000-30,000 สิ่งที่ประทับใจกับกาแฟเวียดนาม
  • TRUNG NGUYÊN เป็นยี่ห้อที่มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ลองกินแล้วสมราคาคุยที่ใคร ๆ ก็บอกว่ายี่ห้อนี้อร่อย แนะนำรุ่นกล่อง 500g รสชาติเวียดนามดีครับ
  • กาแฟ 3in1 ที่รสชาติเข้มข้น ถ้าเป็น 2in1 หรือโอเลี้ยงที่ซื้อมา โครตเข้มข้น แบบว่าต้องใส่น้ำเพิ่ม สรุปว่าเหมือนที่เขาขายข้างทาง คือ ค่อย ๆ จิบกินไป
  • กาแฟคั่วบดยี่ห้ออื่น ๆ รสชาติหลากหลาย เท่าที่เปิดกินตอนนี้อร่อยหมด ราคาเฉลี่ยต่อแก้วตกที่ 3-10 บาท (ซื้อแบบ 500 กรัมจะถูกมากกว่า)


สาวเวียดนาม สาวสุขภาพดี หุ่นกำลังกิน
ถ้าใครชินตากับสาวกทม. ที่ส่วนใหญ่เน้นผมแห้งแรงน้อย หน้าอกหน้าใจ A-B ถ้ามาถึงเวียดนามอาจต้องร้องว้าววว เพราะสาวเวียดนามส่วนใหญ๋รูปร่างกำลังกิน มีอกมีเอว ไม่ผมแห้งแรงน้อย ยิ่งถ้าใส่เสื้อกล้ามโชว์ร่องอกล่ะก็ จะรู้สึกว่าของประเทศเรามันกระดานไปเลย (; ̄ェ ̄)
กลุ่มสาวเวียดนาม แอบถ่ายที่หน้าไปรษณีย์ ☆⌒(>。≪)
ถ้าไปเดินตลาดจะพบกับสาว ๆ หุ่นแบบนี้เป็นเรื่องปกติ (>ω<*)ノノ
สำหรับคนที่ส่งสัยว่าที่เห็นเนี่ย ดันเสริมหรือเปล่า จากที่ดูชุดชั้นในที่ขายไม่ค่อยมีให้เห็น A-B ฟองน้ำครึ่งๆ เห็นแต่ B-C มีฟองน้ำนิดหน่อย เลยพอจะแน่ใจได้ว่าน่าจะเป็นของจริง


ของกินจัดเต็ม
อาหารที่เวียดนามมีเฝออาหารประจำชาติที่มีขายข้างทางยันร้านหรู ๆ กันเลย ซึ่งราคามีตั้งแต่ 30,000 - 100,000 อยู่ที่ว่าจะให้หรูแค่ไหน ที่ลองกิน 50,000 ก็อร่อยมาก ๆ แล้ว ผักเยอะ เนื้อเป็นเนื้อ นอกจากนี้ลองไปกินข้าวผัดปูร้าน Quan 94 จานละ 80,000 สุดยอดมากครับ ปู ปู มันมีแต่เนื้อปู แม่เจ้า
ข้าวผัดปู จานละ 80,000 ปูเยอะมากกกกกก
ถ้าถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยปกติ แต่เนื้อปูที่ให้ก็ให้แบบจริงใจจริงๆ ส่วนน้ำแข็ง+น้ำชา ตกที่แก้วละ 2,000 ครับ ก็แพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย

สำหรับคนไทยที่ชอบออกตัวว่าไม่กล้ากินของข้างทาง ไม่ต้องกระแดะก็ได้เพราะว่าของข้างทางที่กทม. สกปรกกว่าแน่นอนรับรองได้ ถ้าคุณกินของข้างทางที่กทม.แล้วไม่เป็นอะไร ที่โฮจิมินห์ก็กินได้เหมือนกัน ดังนั้นหากอยากลองกินอะไรก็ลองกินเลยไม่ต้องกลัวจนเกินไปครับ

สำหรับใครอยากกินบุพเฟ่ ที่ห้าง Parkson Shopping Center มีอยู่ ชื่อร้าน Toppers Restaurant อยู่ที่ชั้น 4 (เป็น game center กับ โบว์ลิ่ง ด้วย) เป็นอาหารนานาชาติ ที่เน้นไปทางอาหารทะเล เรียกว่าไปจัดเต็มได้ที่นี่ ความสดและรสชาติถือว่าใช้ได้เลย กลางวันราคาจะถูกแต่ของน้อย ถ้าเป็นมื้อค่ำจะแพง แต่ของเยอะกว่ามาก ราคาที่ไปกินมาวันเสาร์ มื้อค่ำ 279,000 (วันธรรมดาแจ้งไว้ 239,000)


ส่งท้ายอีกนิด 
ที่โฮจิมินห์ไม่เห็นหมาจรจัดและขอทานเหมือนในกทม.ครับ รถเยอะแต่ไม่ติดเพราะส่วนใหญ๋เป็นจยย.คล่องตัว ค่าครองชีพสูงกว่าที่กทม. คนที่นี่ขยันและสู้งานกว่าคนไทยมากครับ ถ้าไทยเราเข้าร่วม AEC เมื่อไหร่ท่าจะแย่แน่ อีกนิดเวลานับเงินในกระเป๋ารู้สึกว่ารวยขึ้นยังไงไม่รู้ (เลขศูนย์เยอะมาก) ^^

สำหรับสิ่งที่รู้สึกแย่ที่สุดในการไปเที่ยวครั้งนี้คือดันไปเจอคนไทยที่สนามบิน คิดว่าถ้าอยู่เมืองไทยคงเฉย ๆ แต่พอไปตปท.ต้องแสดงตัวออกตัวเยอะ ๆ หน่อย น่ารำคาญมากครับ (เพราะว่าที่พูดมาทำให้รู้ว่าคุณเธอหัวกลวงน่าดู เหอ ๆ) ภาวนาว่าอย่าให้ต้องเจอคนไทยตอนไปเที่ยวตปท.อีกเลย
(╯°□°)╯︵ ┻━┻"



เมืองหลวงไทย ต้นไม้ใหญ่ไม่มีที่อยู่
อันนี้เพิ่งมาเพิ่ม พอดีไปเจอเรื่องตัดต้นไม้ของ กทม. ที่ส่วนรถไฟฯ ช่างแตกต่างกับที่เวียดนามเป็นอย่างมาก ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ไม่งั้นคงโดนพวกที่มักง่าย หาผลประโยชน์ตัดเรียบ ლ(ಠ益ಠლ



ไม่มีไรมาก แค่ตัดต้นไม้ใหญ่ไปทำร้านอาหารเองล่ะเธอว์ เหอๆ ตรรกะเน้นผลประโยชน์ล้วน ๆ

ไม่ได้ถ่ายเอง มีคนให้ช่วยแชรจาก Facebook ครับ

1 ความคิดเห็น:

Tourkrub กล่าวว่า...

บล็อกที่ดี

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเจ้าของบล๊อก